สิวเครียด จัดการยังไงดี มาทำความรู้จักและวิธีแก้ปัญหากันเลย

รู้จักกับ “สิวเครียด” ความเครียดและสิวคือเรื่องเดียวกัน

“สิวเครียด” ได้ยินคำนี้หลายคนคงรู้สึกแปลก ๆ เพราะส่วนใหญ่มักรู้จักแต่สิวผด สิวอักเสบ สิวหัวช้าง สิวอุดตัน จนเกิดข้อสงสัยตามมาว่า สิวเครียด เป็นแบบไหน ความเครียดกับสิวเกี่ยวข้องกันได้อย่างไร จึงต้องขอหยิบเอาหลักทางวิทยาศาสตร์มาอธิบายให้เข้าใจง่ายขึ้น

ตามข้อมูลที่ผ่านการศึกษาทางวิทยาศาสตร์โดยอาศัยทฤษฎีจากนักวิจัยจำนวนมากพบว่า ร่างกายคนเราจะมีสาร Cortisol ซึ่งเป็นฮอร์โมนในกลุ่มสเตียรอยด์ประเภทหนึ่ง เมื่ออยู่ในช่วงที่คุณกำลังเกิดความเครียดสารชนิดนี้จะถูกหลั่งออกมาในปริมาณมากกว่าปกติ พอฮอร์โมนคอร์ติซอลมารวมกับฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) ฮอร์โมนควบคุมลักษณะของเพศชาย (แต่มีอยู่ในทั้ง 2 เพศ) ก็จะเกิดกระบวนการต่าง ๆ ทางร่างกายและกลายเป็นสิวได้นั่นเอง

อย่างไรก็ตามแม้บางผลวิจัยอาจพิสูจน์ได้ว่าไม่เกี่ยวข้องกันโดยตรง แต่ผลสรุปที่ได้ก็ยังคงบ่งบอกว่าความเครียดไม่ว่าระยะสั้นหรือยาวเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ร่างกายมีการหลั่งสารบางชนิดซึ่งมักทำให้เกิดสิว ส่วนใครเป็นสิวอยู่แล้วความรุนแรงก็มักลุกลามขึ้นกว่าเดิม และมีแนวโน้มเกิดรอยแดง แผลเป็นด้วย

ลักษณะของสิวเครียดเป็นอย่างไร

สิวเครียด เป็นแบบไหน? คำถามที่เชื่อว่าทุกคนเองก็อยากรู้จักไม่แพ้กัน รวมถึงสิวเครียด ขึ้นตรงไหนบ้าง? หากสังเกตแล้วสิวประเภทนี้ก็ไม่ต่างจากสิวปกติที่เกิดขึ้นบนใบหน้าและร่างกาย นั่นทำให้ไม่สามารถแยกออกได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามหากมีการสังเกตตนเองบ้างหลายคนมักพบว่าบ่อยครั้งสิวที่เกิดขึ้นบนใบหน้ามักมาจากช่วงเวลาที่ตนเองรู้สึกเครียดบ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นสิวขึ้นเม็ดเดียวแบบเดี่ยว ๆ หรือการขึ้นเป็นกลุ่มสิว ขณะที่ใครมีสิวอยู่แล้วอย่างที่กล่าวไปกว่าความเครียดมักยิ่งทำให้การอักเสบเกิดขึ้นง่ายกว่าเดิม ดังนั้นการรู้จักวิธีรักษาพร้อมการป้องกันดูแลอย่างถูกต้องจึงเป็นเรื่องสำคัญมากกว่า

วิธีลดสิวเครียด เพื่อเพิ่มความผ่องใสให้กับใบหน้า

สิวเครียด รักษายังไงดี? คำถามที่มักเกิดขึ้นกับคนที่มีสิวเวลาตนเองเครียด ลองนำเอาวิธีเหล่านี้ไปใช้กันเลย จะช่วยลดโอกาสเกิดสิวเครียด พร้อมเติมเต็มความมั่นใจในการใช้ชีวิตได้อีกครั้ง

1. ปรับพฤติกรรมของตนเองในดูแลรักษาใบหน้า

ใครมีนิสัยชอบแกะสิว บีบสิว นี่คือสิ่งแรกที่คุณควรหยุดทำเด็ดขาดหากไม่อยากให้สิวเครียดลุกลามแถมยังทิ้งรอยแดง รอยแผลเป็นเอาไว้บนใบหน้าอีกด้วย ขอบอกว่าร่องรอยเหล่านี้รักษายากกว่าเม็ดสิวด้วยซ้ำ พยายามไม่นำมือสัมผัสกับใบหน้าหากยังไม่ได้ล้างทำความสะอาด อย่าล้างหน้าบ่อยเกินไปเพราะจะทำให้ผิวแห้งกร้าน แถมยังผลัดเซลล์ผิวออกจนเกิดสิวขึ้นง่าย วิธีลดสิวที่สำคัญอย่าพยายามเปลี่ยนครีมแต้มลดสิวหรือครีมบำรุงผิวบ่อย ๆ เพราะครีมบางตัวอาจมีสารเคมีอันก่อให้เกิดอาการแพ้และการเห่อของสิวเพิ่มมากขึ้น

2. เปลี่ยนนิสัยการทานอาหารของตนเอง

อาหารที่ทานในแต่ละมื้อก็มีผลต่อการทำให้เกิดสิวเครียดได้ เพราะสมอง ลำไส้ และผิวหนังล้วนเชื่อมโยงกันชัดเจน หลายคนพอเครียดมาก ๆ ก็ทานอาหารไม่มีประโยชน์ ของมัน ของทอด ของหวาน แอลกอฮอล์ นอกจากจะไม่ดีต่อร่างกายแล้วยังเป็นตัวการให้เกิดสิวเพิ่มเติมอีกด้วย จึงอยากแนะนำให้ลองเปลี่ยนมาทานอาหารที่มีโพรไบโอติกส์และพรีไบโอติกส์ให้มากขึ้น เช่น โยเกิร์ต และเพิ่มอาหารที่มีวิตามินเอ บี ซี ซิงค์ และกรดแพนโทเธนิคที่อยู่ในผัก ผลไม้ จะมีสารต้านอนุมูลอิสระเพิ่มความเปล่งปลั่งให้กับผิวพรรณและลดการเกิดสิวได้ด้วย

3. ลดความเครียดและสร้างแนวทางใช้ชีวิตแบบใหม่

รู้ดีว่าความเครียดเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ในเมื่อสิวประเภทนี้เกิดจากสาเหตุดังกล่าว การลองสร้างแนวทางใหม่ ๆ ในการใช้ชีวิตจึงไม่ใช่เรื่องแย่ เช่น ตั้งสติในการใช้ชีวิตให้มากขึ้น ย้ำเตือนตนเองไว้เสมอว่าทุกอย่างมีทางออกเพียงแค่รอเวลาอันเหมาะสมเท่านั้น ลองหากิจกรรมที่ช่วยระบายความเครียดของตนเองออกไปและได้ประโยชน์กลับมาพร้อมกัน เช่น วิ่ง เล่นกีฬา เล่นดนตรี หรือแม้แต่การเล่นเกม ดูซีรี่ย์ก็ไม่ผิด พยายามเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อย 8 แก้ว และที่สำคัญต้องนอนวันละไม่ต่ำกว่า 6-8 ชม. ไม่นอนดึก หากปรับได้แบบนี้นอกจากสิวไม่มียังได้สุขภาพดี ๆ อีกด้วย

4. รู้จักวิธีบำรุงและดูแลผิวของตนเองอย่างถูกต้อง

• ป้องกันรังสียูวีที่กระทบกับผิวหน้า ด้วยการใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF50+ PA+++ จะปกป้องผิวหน้าของคุณจากรังสี UVA และ UVB นอกจากทำให้ใบหน้าหมองคล้ำแล้ว ยังเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ และเป็นสิวด้วย พยายามใช้อย่างสม่ำเสมอแม้ไม่ได้ออกไปกลางแจ้งก็ตาม
• เพิ่มระดับความชุ่มชื้นให้กับผิว ใครที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน หรืออยู่ในช่วงของการใช้ครีมลดสิวที่ส่วนใหญ่มักมีผลข้างเคียงทำให้ผิวแห้ง พยายามเพิ่มความชุ่มชื้นบนใบหน้าด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ เสริมเกราะป้องกันให้ผิวแข็งแรง ลดอาการแพ้ แต่ควรเลือกเนื้อสัมผัสบางเบา อ่อนโยนต่อผิวด้วย
• ใช้ผลิตภัณฑ์ลดสิว โดยเฉพาะกลุ่มสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Salicylic acid หรือ Benzoyl peroxide ลดการใช้ครีมบางตัวที่อาจก่อให้เกิดการอุดตันจากเนื้อครีมที่แน่นจนเกินไป 
• ผลัดเซลล์ผิวอย่างถูกวิธี ด้วยการใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ BHA, AHA หรือ Retinol และอย่างสครับผิวเป็นอันขาดเพราะอาจทำให้เห่อมากขึ้นกว่าเดิม
• อย่าลืมปลอบประโลมผิว ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากสาหร่ายหรือสารสกัดจากใบบัวบก ช่วยลดการอักเสบของใบหน้าและสิว

5. ลองปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ

สิวเครียด รักษาเท่าไหร่ก็ไม่หาย แบบนี้ต้องลองปรึกษาแพทย์ผิวหนังที่มีความชำนาญเฉพาะทาง เพราะสภาพผิวและปัจจัยแวดล้อมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน การรักษาอย่างตรงจุดจะช่วยให้ใบหน้าของทุกคนกลับมาผ่องใส หน้ามอง ไม่ต้องเครียดจากสิวให้หนักกว่าเดิม แต่ต้องไม่ลืมว่าควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดด้วย