ปกติร่างกายจะมีการผลิตน้ำมันเพื่อให้ผิวไม่รู้สึกแห้งมากนัก อย่างไรก็ตามหากต่อมไขมันที่แทรกอยู่ตามรูขุมขนผลิตออกมามากเกินพอดีก็มักทำให้เกิดปัญหา “หน้ามัน” ได้ โดยเฉพาะบริเวณใบหน้าตรงจุด T-Zone นำมาซึ่งปัญหาต่าง ๆ มากมาย จึงอยากพาทุกคนมาศึกษา “วิธีแก้หน้ามัน” พร้อมเข้าใจถึงสาเหตุเพื่อหลีกเลี่ยงอย่างเหมาะสม
สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาผิวมัน
อย่างที่เกริ่นไปว่าหากต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากเกินไปย่อมส่งผลถึงผิวให้เกิดความมันตามด้วย ซึ่งก่อนจะไปรู้วิธีแก้หน้ามันมาศึกษาถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาผิวมันก่อนเลย
- กรรมพันธุ์หรือพันธุกรรมทางร่างกายที่ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากกว่าปกติ
- สภาพแวดล้อมหรืออากาศร้อนจัด ทำให้เกิดเหงื่อ
- ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือเครื่องสำอางที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวของตนเอง
- เกิดภาวะระดับฮอร์โมนเพศชายในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น (มักเป็นช่วงวัยรุ่นและผู้ใหญ่ทั้งในเพศชายและหญิง)
- ความเครียด อารมณ์แปรปรวน ทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากกว่าปกติ
- มือสัมผัสผิวหน้ามากเกินไปหรือล้างหน้าบ่อยเกินเหตุ
- การทานของมัน ของทอดเป็นประจำ
วิธีแก้หน้ามัน ทำตามได้ดังนี้เลย
เมื่อเข้าใจถึงสาเหตุกันไปแล้ว คราวนี้ก็มาเริ่มเข้าสู่วิธีแก้หน้ามันที่ใครก็สามารถทำตามได้เพียงแค่ปรับพฤติกรรมของตนเองไปจนถึงการรู้เทคนิคต่าง ๆ อย่างถูกต้องเท่านั้น ยืนยันไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่กังวลใจและถ้าหากคุณกำลังเผชิญกับปัญหานี้อยู่ลองดูเลย ไม่เสียหาย
อาหารและน้ำเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องปรับ
ทุก ๆ วันคนเราต้องทานอาหารเพื่อให้ร่างกายสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ซึ่งอาหารแต่ละอย่างที่ทานเข้าไปย่อมมีส่วนทำให้ร่างกายเกิดความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เป็นเรื่องปกติ สำหรับคนมีปัญหาผิวมันแนะนำว่าควรได้รับวิตามินเอ และวิตามินบี 2 ในปริมาณที่เพียงพอ เหตุผลสำคัญมาจากหากร่างกายขาดวิตามินบี 2 เพียงแค่นิดเดียวก็อาจส่งผลทำให้เกิดปัญหาผิวมันยิ่งกว่าเดิม ซึ่งอาหารที่มีวิตามินชนิดนี้จะอยู่ในกลุ่มของถั่ว ธัญพืชไม่ขัดสี
ส่วนอาหารที่อัดแน่นไปด้วยวิตามินเอก็ห้ามลืมเป็นอันขาดเนื่องจากสารอาหารประเภทนี้มีส่วนสำคัญเพื่อลดกระบวนการผลิตไขมันของร่างกาย ส่วนใหญ่มักเป็นกลุ่มแครอท ผักโขม แคนตาลูป เป็นต้น ทั้งนี้ไม่ใช่แค่การเลือกทานอาหารที่มีวิตามินทั้ง 2 ชนิดเท่านั้น แต่ควรลดการทานของมัน ของทอด เน้นการทานผัก ผลไม้ให้มากขึ้น เนื่องจากการทานของที่มีความมันจัดเป็นประจำจะยิ่งทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากกว่าปกติ
มากไปกว่านั้นอาหารที่มีรสหวานจัด มีน้ำตาลเยอะ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารรสจัด ไปจนถึงกลุ่มฟาสต์ฟู๊ดก็พยายามลดด้วยเช่นกัน เพราะมักทำให้หลอดเลือดเกิดการขยายตัว ขับเหงื่อเยอะกว่าปกติ ร่างกายขาดน้ำจนผิวไม่สมดุล
อีกสิ่งที่ห้ามลืมเด็ดขาดคือการดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอในแต่ละวันเฉลี่ย 8-10 แก้ว โดยใช้วิธีจิบน้ำบ่อย ๆ ไม่ต้องดื่มปริมาณเยอะเพื่อให้ร่างกายนำเอาน้ำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ผิวเกิดความชุ่มชื้นจากภายในสู่ภายนอก
พยายามหลีกเลี่ยงแสงแดดและใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ
การที่ผิวสัมผัสกับแสงแดดเป็นประจำจะทำให้เกิดความแห้งกร้าน ระดับความมันไม่สมดุลจนร่างกายต้องพยายามกระตุ้นให้ผลิตไขมันออกมาจำนวนมากเพื่อรักษาระดับความสมดุลดังกล่าว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หน้าจะมันกว่าปกติ รวมถึงการมีเหงื่อจากความร้อนก็เป็นอีกสาเหตุหน้ามันที่มาจากแสงแดดเช่นกัน ด้วยเหตุนี้วิธีแก้ปัญหาอันแสนง่ายดายมากที่สุดคือพยายามทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ โดยเลือกประเภทครีมที่มีค่า SPF50+ PA+++ ขึ้นไป ซึ่งใครมีปัญหาหน้ามันอาจเลือกสูตรเนื้อครีมบางเบา (แต่ต้องระวังเรื่องการผสมแอลกอฮอล์สำหรับคนผิวแพ้ง่าย) ข้อดีของการทาครีมกันแดดไม่ใช่แค่แก้ปัญหาผิวมันแต่ยังลดการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ ความหมองคล้ำ ไปจนถึงมะเร็งผิวหนังด้วย
การเลือกใช้สกินแคร์และเครื่องสำอางสำหรับคนหน้ามัน
วิธีแก้หน้ามันที่อยากแนะนำเพิ่มเติมคือการเลือกใช้สกินแคร์ที่พัฒนาสูตรมาสำหรับคนหน้ามัน ต้องเข้าใจก่อนว่าน้ำมันกับความชุ่มชื้นเป็นคนละเรื่องกัน แม้เป็นคนผิวมันก็อาจขาดความชุ่มชื้นได้เช่นกัน วิธีเลือกผลิตภัณฑ์พื้นฐานจึงต้องพยายามเลือกสูตรเฉพาะที่เหมาะกับใบหน้าตนเองก่อน ซึ่งหลักการเบื้องต้นก็แสนง่ายดายนั่นคือหากเป็นครีมกันแดดควรเลือกครีมกันแดดคุมมันสูตรไม่มีน้ำมัน หรือ Oil Free ส่วนบรรดาครีมบำรุงผิว เซรั่ม มอยส์เจอไรเซอร์ก็ควรเลือกสูตรเนื้อบางเบา ตัวอย่างเช่น VERITE COLLAGEN SERUM 30ML. ผลิตภัณฑ์เซรั่มคอลลาเจนสำหรับการบำรุงผิวหน้าสูตรเนื้อบางเบาพิเศษ มีส่วนสำคัญในการลดเลือนริ้วรอย เพิ่มความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้า แลดูเด็กลงอีกครั้ง พิเศษกับคอลลาเจนสูตรลิขสิทธิ์ Nano Lift จากสวิตเซอร์แลนด์ ซึมซาบเข้าสู่ผิวอย่างรวดเร็ว คืนความชุ่มชื้น ถือเป็นอีกวิธีแก้หน้ามัน รูขุมขนกว้างเพียงแค่ใช้งานอย่างสม่ำเสมอ
ขณะที่การเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าต้องเน้นสูตรที่ค่า PH เป็นกลาง หรือเอียงไปทางกรดนิดหน่อย เนื่องจากกรดมีส่วนป้องกันไม่ให้แบคทีเรียเติบโต หรืออาจเลือกสูตรเย็นเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวแห้งตึง กระชับรูขุมขน รู้สึกถึงความสดชื่น ไม่แนะนำให้ใช้งานสูตรสครับเพราะผิวจะถูกกระตุ้นให้สร้างความมันมากกว่าเดิม
ส่วนโทนเนอร์ที่ใช้งานหลังการล้างหน้าแนะนำให้ใช้สูตรไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และอะซีโตน เพื่อหยุดปัญหาผิวหน้าแห้งจัดจนร่างกายต้องผลิตไขมันออกมาใช้ ใบหน้าจึงเกิดความมันเร็วขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้ต้องใช้งานโทนเนอร์อย่างสม่ำเสมอตั้งแต่ใบหน้าและลำคอเช้า-เย็น เพื่อควบคุมความมันไม่ให้เกิดขึ้นบนใบหน้า
สุดท้ายเรื่องของการใช้เครื่องสำอาง สำหรับคนหน้ามันแนะนำให้ใช้เครื่องสำอางเนื้อแมททั้งพวกลิปสติก อายแชโดว์ อย่าใช้กลุ่มมันวาวเป็นอันขาด เพื่อให้ผิวหน้าดูสดใส ไม่มันเยิ้มจนเกินไป รองพื้นเน้นสำหรับคนผิวมัน อาทิ สูตรน้ำ สูตรเจล ปราศจากน้ำมัน แอลกอฮอล์ น้ำหอม เนื้อสัมผัสบางเบา กันเหงื่อได้ดี ทนน้ำ เพื่อป้องกันการหลุดลอกระหว่างวัน ยิ่งถ้าได้สูตรที่มีส่วนผสมของแร่ธาตุและวิตามินจากธรรมชาติ อาทิ วิตามินซี น้ำแร่ ซิงค์ออกไซด์ จะช่วยดูดซับความมัน เผยความเปล่งปลั่งกระจ่างใสอีกด้วย