วิธีทำให้หน้าเด็ก ไม่ยากอย่างที่คิด กระชากวัยกันไปเลย

วิธีทำให้หน้าเด็ก

เป็นอีกวิธีที่ไม่ควรมองข้ามกับหลายคนที่ช่วงวัยเริ่มมากขึ้น ก็คือวิธีทำให้หน้าเด็ก ซึ่งจริง ๆ อยากบอกว่าวิธีทำไม่ยากอย่างที่คิด หากใครพร้อมจะกระชากวัยกันแล้วตามเรามาทางนี้ด่วน

วิธีทำให้หน้าเด็ก ต้องเริ่มจากใช้สกินแคร์อย่างสม่ำเสมอ

สำหรับวิธีการทำให้หน้าดูเด็กลงนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด สิ่งสำคัญคือการเริ่มต้นจากการเลือกใช้สกินแคร์อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งก็มีมาแนะนำ ไม่ว่าจะเป็น

1. การรับประทานอาหาร

อย่างแรกเลยก็คือการรับประทานอาหารที่มีส่วนช่วยดูแลผิว และมีประโยชน์ต่อร่างกายมากสุด โดยในผักและผลไม้จะมีคุณสมบัติที่ต่างกัน อย่าง มะเขือเทศ หรือแครอทก็มีเบต้าแคโรทันที่ช่วยให้หน้าเด็กลงได้จริง ช่วยซ่อมแซมผิวให้แข็งแรง ลดความหย่อนคล้อย ทำให้ผิวเปล่งปลั่งมากขึ้น หรืออาจจะใช้เป็นคอลลาเจนอาหารเสริมด้วยให้ผิวดูอ่อนกว่าวันได้เลย 

2. เบามือในการเช็ดล้างเครื่องสำอาง 

สำหรับใครที่แต่งหน้าใช้เครื่องสำอางจำเป็นที่จะต้องทำความสะอาดเครื่องสำอางด้วย โดยให้เช็ดเบามือมากที่สุด อย่าถูแรงจนเกินไป และควรเลือกใช้เป็นคลีนซิ่งที่ทำให้เครื่องสำอางออกได้ง่าย ถนอมแรงไม่ให้ถูหนักมือกลายเป็นสำลีเสียดสีผิวหน้าไปได้

3. ผลัดเซลล์ผิวด้วยการสครับผิว

อีกเคล็ดลับ หน้าอ่อนวัยที่ไม่ควรมองข้ามก็คือการสครับผิวหน้าเอาเซลล์ที่ตายแล้วออกไป เพื่อช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส รูขุมขนไม่อุดตัน พร้อมบำรุงในชั้นผิวให้ดูอ่อนกว่าวัยได้ เลี่ยงเนื้อสครับที่เป็นแบบเล็กละเอียด และขัดให้เบามือมากที่สุด ใครไม่อยากใช้เนื้อสครับก็ใช้เป็นเจลสูตรอ่อนโยนก็ช่วยได้เช่นกัน

4. ล้างหน้าให้เหมาะสม

การล้างหน้าควรใช้เป็นน้ำที่มีอุณหภูมิปกติ หรือเป็นน้ำเย็น เพราะการใช้น้ำอุ่นจะยิ่งทำให้ผิวหน้าแห้ง เกิดริ้วรอยได้ง่าย ๆ และยังต้องเลือกใช้โฟมล้างหน้าที่เหมาะสมกับสภาพผิวด้วย อย่าง คนผิวมันด้วยเป็นสิวด้วยควรเลือกสูตร Acne หรือคนที่ผิวแห้งควรเลือกเป็นโฟมล้างหน้าที่มีความชุ่มชื้น 

5. ใช้ครีมกันแดดสม่ำเสมอก่อนออกจากบ้าน

เป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลยอีกเช่นกัน คือการเลือกใช้เป็นครีมกันแดดที่ควรใช้งานสม่ำเสมอทุกวัน โดยเฉพาะใครที่ต้องออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งนอกบ้าน เพราะแสงแดดมีรังสียูวีที่อยู่รอบตัวที่เป็นตัวการทำร้ายผิว แต่ถ้าใครไม่รู้จะเลือกครีมกันแดดไหนดี แนะนำเป็น VERITE UV EXPERT SUNSCREEN SPF 50 PA+++ 30G. ที่เหมาะกับทุกสภาพผิว ไม่อุดตันรูขุมขน เป็นสูตรกันน้ำที่ช่วยป้องกันรังสี UVA และ UVB เนื้อครีมบางซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ง่าย คุ้มมันไม่เหนียวเหนอะหนะ ป้องกันจุดดำ ริ้วรอบ ไม่เป็นคราบระหว่างวัน 

6. ใช้เซรั่ม และครีมที่มีวิตามินต่าง ๆ ช่วยบำรุง

ถือเป็นสกินแคร์ที่ช่วยบำรุงผิวได้ดี ไม่ว่าจะเซรั่ม หรือครีมมอยส์เจอไรเซอร์ ที่ช่วยทำให้ผิวหน้าดูอ่อนกว่าวัย กระนั้นเป็นการดูแลจากภายในสู่ภายนอก เมื่อผิวเจอความเครียดก็ทำให้มีอนุมูลอิสระเพิ่มมากขึ้น และเกิดปัญหาผิวลอก หมองคล้ำ ริ้วรอยต่าง ๆ ผิวแห้ง ฯลฯ กระนั้นวิตามินถือเป็นสารสกัดที่เข้มข้นเป็นอาหารผิวได้ดี แนะนำเป็น Verite Fulfilled Age Rewind Set 130g. ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีให้เลือกหลากหลาย ทั้ง 

  • เซรั่ม VERITE Fulfilled Age Rewind Serum ที่ช่วยให้ผิวหน้ายกกระชับ เรียบเนียน กระจ่างใส
  • ครีมบำรุงผิว VERITE Fulfilled Age Rewind Intensive Moisturizer เป็นสูตรอ่อนโยนที่ใช้ได้ทุกสภาพผิว ช่วยให้ริ้วรอยร่องลึกตื้นขึ้น ผิวดูยกกระชับ เรียบเนียน
  • เจลบำรุงผิวหน้า VERITE Fulfilled Age Rewind Gel Moisturizer มอยส์เจอไรเซอร์เข้มข้นที่เหมาะกับผิวอ่อนโยน ใช้ได้ทุกสภาพผิว ทำให้ผิวเรียบเนียนมากขึ้น

7. ให้ความสำคัญกับขั้นตอนการบำรุงผิว

สุดท้ายคือการให้ความสำคัญกับขั้นตอนบำรุงดูแลผิว โดยเฉพาะเซรั่มที่ถือเป็นอาหารผิวขั้นยอด ที่นอกจากมีส่วนผสมและสารสกัดที่เข้มข้นมาก ช่วยมอบการดูแลผิวที่พิเศษล้ำลึกมากขึ้น ควรเลือกใช้เซรั่มที่เหมาะกับสภาพผิว แนะนำว่าหากหน้ามีริ้วรอยให้ใช้เป็นเซรั่มที่มอบความชุ่มชื้น เพื่อให้ผิวดูสุขภาพดีดูอิ่มน้ำ วิธีการทาให้ทาทั่วใบหน้าและลำคอ นวด หยิกผิวหน้าเบา ๆ ช่วยกระตุ้นให้ผิวโกลว์ใส

H2 สร้างคุณลักษณะนิสัยที่ดีเพื่อทำให้ใบหน้าแลดูอ่อนกว่าวัย

1. ดื่มน้ำเยอะ ๆ ออกกำลังกายบ่อย ๆ

ดื่มน้ำเปล่าวันละ 2 – 3 ลิตรได้เลยยิ่งดี เพราะช่วยให้เซลล์ผิวหนัง เซลล์ร่างกาย เซลล์อิ่มน้ำทำให้ไม่เหี่ยวแห้ง ส่วนการออกกำลังกายให้เป็นคาร์ดิโอช่วยให้เลือดสูบฉีดดี ออกกำลังกายแบบเวท ช่วยกระตุ้นสร้างกล้ามเนื้อออกทุกวันฮอร์โมนร่างกายสมดุล

2. เลือกสกินแคร์ให้เหมาะสมกับผิวหน้าตัวเอง

ควรเลือกครีมบำรุงผิวที่เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคน และควรเลือกครีมที่ผสานวิตามินดี ๆ ทั้ง 3 ชนิดได้ อย่าง วิตามิน B3, วิตามิน E และวิตามิน C ที่ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกัน ทำให้ผิวแข็งแรง ลดเลือนริ้วรอยจุดด่างดำที่เกิดขึ้นก่อนวัยอันควร

3. กินวิตามินเสริม

โดยที่วิตามินนั้นช่วยยับยั้งไม่ให้น้ำตาลเกาะโปรตีน กลายเป็นสารอนุมูลอิสระ และวิตามินที่สำคัญต่อผิว ได้แก่ วิตามิน B1 และ B6 วิตามิน C และวิตามิน E วิตามิน Q10 Grape seed ที่ช่วยดูแลผิวอย่างดี

4. เลี่ยงอาหารรสจัด เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์

อาหารรสจัด อย่างรสหวาน ก็จะทำลายคอลลาเจนที่มีบนผิวหน้า เพราะน้ำตาลจะไปจับโปรตีน และคอลลาเจน ทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระทำร้ายผิว ควรกินในปริมาณที่เหมาะสมไม่ควรเกิน 24 กรัม 

5. นอนให้พอ และถูกท่า

เป็นการนอนพักผ่อนควรให้ได้วันละ 6 – 8 ชม. โดยที่ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนฟื้นฟูร่างกายออกมา การนอนถูกท่าควรนอนหงายไม่ตะแคงไปด้านใดด้านหนึ่ง หรือนอนคว่ำ เพราะจะทำให้ได้รับออกซิเจนเต็มที่ หายใจได้เต็มปอด หล่อเลี้ยงในร่างกายให้ได้ประสิทธิภาพสูงตื่นมาก็สดชื่น

6. หมั่นท่าครีมกันแดดทุกวัน

เพราะแสง UV นั้นมีส่วนที่ทำให้เกิดฝ้า กระ หรือจุดด่างดำบนใบหน้า รวมถึงยังทำลายคอลลาเจนที่ชั้นผิว ทำให้เกิดริ้วรอย ผิวเหี่ยวแห้งก่อนวัยอันควร

7. ล้างเครื่องสำอางและล้างหน้าให้สะอาด

สำหรับการล้างหน้าแล้วต้องล้างให้สะอาด เพราะไม่อย่างนั้นจะเป็นรูขุมขนอุดตันได้ ทำให้ผิวระคายเคือง ทำให้เกิดริ้วรอยขึ้นมาผิวหน้าดูแก่กว่าวัยไปได้

8. หมั่นนวดหน้าบ่อย ๆ

การนวดหน้าจะเป็นส่วนที่กระตุ้นผิวหนัง และทำให้รูขุมขนบนใบหน้าดีท็อกซ์ เอาเซลล์ผิวที่เสียหลุดออก สร้างเซลล์ผิวใหม่ ช่วยขับของเสียและต่อต้านสารอนุมูลอิสระออกจากใบหน้าเราไปได้ 

9. ไม่เครียด ปล่อยวางให้ได้มากที่สุด

ใครที่เครียดแล้วทำหน้านิ่วคิ้วขมวดจะทำให้เกิดริ้วรอย หรือถ้าใครไม่อยากให้มีรอยตีนกาก็ควรอยู่เฉย ๆ อย่าทำอะไรให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย ไม่อย่างนั้นจะเป็นใบหน้าที่แก่ก่อนวัย จึงพยายามที่ไม่เครียด

วิธีทำให้หน้าเด็กทันใจด้วยการเข้าคลินิก

หากดูแลตัวเองแบบทั่วไปเรื่อย ๆ อาจไม่เพียงพอ เคล็ดลับ หน้าอ่อนวัยอีกรูปแบบที่ควรทำก็คือวิธีทางการแพทย์ที่พึ่งเทคโนโลยีต่าง ๆ โดยเราสามารถเลือกทำได้ตามต้องการ ช่วยลดเลือนริ้วรอยที่เป็นจุดบ่งบอกอายุ ที่เห็นผลได้ชัดเจนมากกว่าเดิม คือ

1. Botox

เป็นหัตถการทางแพทย์ที่ฉีดไปแล้วจะช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้าที่มาจากการแสดงสีหน้าต่าง ๆ ที่ทำให้ดูอายุมากขึ้น ไม่สดใส เช่น การขมวดคิ้ว ตีนกา รอบหางตา ริ้วรอยที่หน้าผาก ฯลฯ โดยที่การออกฤทธิ์ของ Botox นั้นจะทำให้กล้ามเนื้อหยุดการทำงานชั่วคราว เวลาแสดงสีหน้ามาก ๆ ก็จะไม่เกิดปัญหาผิวหนังพับย่น ไม่เป็นรอยและเรียบตึงดูสวยงาม ทั้งนี้ ยังมีส่วนช่วยในการปรับรูปหน้าจากการฉีด Botox ได้ อย่างการลดกรามที่ทำให้ขนาดกรามจากใหญ่ก็ดูเล็กลง หน้าเรียวสวยวีเชฟมากขึ้น

2. ฟิลเลอร์

เป็นการฉีดสารเติมเต็มแบบไฮยาลูรอนิค แอซิด ที่เพิ่มเต็มร่องลึก เติมเต็มริ้วรอยบนใบหน้า ทำให้หน้าเด็กลงได้อย่างชัดเจน มีเลือกทั้งฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ลดริ้วรอยถุงใต้ตา เติมเต็มใต้ตา ทำให้หน้าเด็กลง ช่วยเรื่องขอบตาดำ ตาโหล ตาลึก ทำให้ดูสดชื่นขึ้น และฟิลเลอร์ร่องแก้มที่ทำให้ดูแก่ เพราะผิวหย่อนคล้อย ฟิลเลอร์ก็จะช่วยลดริ้วรอยต่าง ๆ ที่ทำให้ร่องแก้มลึกตื้น ซึ่งฟิลเลอร์เป็นวิธีทำให้หน้าเด็กที่เห็นผลเร็ว ผลลัพธ์ชัดเจนมาก

3. Ulthera SPT

เป็นเครื่องมือที่ใช้พลังงานคลื่นอัลตราซาวด์ที่ยิงลึกที่ผิวหนัง ช่วยปรับรูปหน้า ยกกระชับ ลดริ้วรอย หน้าดูเด็กลงได้แบบที่ไม่ต้องผ่าตัด โดยที่จะเป็นถึงผิวชั้น SMAS ที่พลังลงลึกได้เลย สามารถทำได้หลายตำแหน่ง ไม่ว่าจะ ร่องแก้ม ใบหน้า หางตา ร่องมุมปาก รอบดวงตา หางคิ้ว กรอบหน้า ลำคอ 

4. Hifu Ultraformer III

เป็นอีกหนึ่งในการใช้เครื่องมือเคลื่นอัลตราซาวด์ที่ปลอดภัยมาก ยิงไปที่ชั้นผิวทำให้ผิวหดตัว สร้างคอลลาเจนให้ผิว ผิวแน่น ยกกระชับมากขึ้น รักษาริ้วรอยร่องลึกที่ไม่มาก เหมาะกับคนที่ไม่ชอบเข็ม ไม่อยากผ่าตัดดูแลตัวเองนาน เหมาะกับคนที่อยากได้ใบหน้าดูอ่อนวัย หน้าเด็ก จึงได้รับความนิยมจากผู้หญิงที่ต้องการให้ผิวหน้าแน่นกระชับอย่างมาก

5. ร้อยไหม

สุดท้ายก็คือการทำหัตถการร้อยไหม ที่ปัจจุบันจะเป็นไหมก้างปลา เพราะช่วยให้ยึดเกี่ยว เกี่ยวดึงได้ดี ทำให้ได้ผลลัพธ์บนใบหน้าอยู่ได้นาน การร้อนไหมช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยของใบหน้าที่ได้ดีมาก ๆ เหมาะกับคนแก้มย้อย แก้มหย่อน ซึ่งการร้อยไหมยังมีส่วนกระตุ้นอิลาสตินและคอลลาเจนที่มีประโยชน์ที่ผิวจะดูกระชับมากขึ้น ได้หน้าเด็กลงอย่างเห็นได้ชัด

6. Thermage FLX

อีกเทคโนโลยีที่ช่วยในเรื่องการสลายไขมันโดยอาศัยคลื่นวิทยุความถี่สูง แพทย์จะยิงไปตั้งแต่ผิวหนังชั้นนอกจนถึงชั้นไขมัน นิยมใช้สำหรับสลายเหนียงกับแก้ม เพิ่มความกระชับของใบหน้า ที่สำคัญยังทำให้ผิวดูเด็กลง ลดเลือนริ้วรอยได้ดี

Recommended Posts