ผิวแห้ง แก้อย่างไรดี มีคำแนะนำชั้นยอดมาบอกต่อกันแล้ว

ผิวแห้ง

“ผิวแห้ง” ปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ผลเสียที่ตามมามีทั้งความหมองคล้ำ แตกลอกเป็นขุย ไปจนถึงสีผิวไม่สม่ำเสมอ รู้สึกเสียความมั่นใจเมื่อต้องออกไปพบเจอกับผู้คนภายนอก หลายคนคงกำลังตั้งคำถามพร้อมข้อสงสัยว่าควรแก้ปัญหานี้อย่างไรดี นี่คือข้อมูลและคำแนะนำดี ๆ ที่สามารถเอาไปใช้งานกันได้เลย

สาเหตุและปัจจัยที่เป็นสิ่งกระตุ้นทำให้เกิดผิวแห้ง

ต้องบอกว่าจริง ๆ แล้ว “ผิวแห้ง” เกิดขึ้นได้ทั้งปัจจัยภายในร่างกายของตนเองและปัจจัยแวดล้อมภายนอก ดังนั้นลองมาเริ่มจากการศึกษาถึงสาเหตุอันเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น จะได้รู้วิธีแก้ไขในลำดับต่อไป

1. พันธุกรรม / กรรมพันธุ์ของแต่ละบุคคล

ปัจจัยภายในร่างกายที่เป็นมาตั้งแต่กำเนิด เช่น เป็นคนที่มีผิวแห้งอยู่แล้ว เมื่อเจอสภาพอากาศเย็นก็แตกลอก เป็นขุยง่าย รวมถึงโรคทางพันธุกรรมส่งผลถึงปัญหาดังกล่าว อาทิ สะเก็ดเงิน ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง เป็นต้น

2. อายุที่มากขึ้น

เป็นเรื่องปกติของหลาย ๆ คน เมื่อมีอายุเพิ่มมากขึ้นไขมันในผิวก็จะถูกผลิดน้อยลงตามไปด้วย ส่งผลถึงชั้นผิวเกิดความอ่อนแอ นำมาซึ่งการสูญเสียน้ำมากกว่าปกติจนผิวแห้งมากกว่าวัยหนุ่มสาว

3. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

ส่วนมากมักเกิดขึ้นกับผู้หญิงที่จะมีเรื่องให้ฮอร์โมนเกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยครั้ง เช่น การเข้าสู่วัยทองหรือภาวะหมดประจำเดือน ช่วงระหว่างประจำเดือนจะมา หรือตอนที่อยู่ในระยะของการตั้งครรภ์ เป็นต้น

4. ปัญหาชั้นผิวไม่แข็งแรง 

ชั้นผิวอ่อนแอมาจากชั้นผิวภายในมีน้ำลดลง สาเหตุเพราะเซลล์ของร่างกายไม่สามารถส่งผ่านน้ำมายังชั้นประตูผิวได้ตามปกติ ผิวจึงขาดความชุ่มชื้น ไม่เนียนนุ่ม แห้งกร้าน บางคนแตกลอกเป็นขุย มีอาการคัน ทั้งนี้อีกสาเหตุที่ทำให้ชั้นผิวอ่อนแอมาจากการทำความสะอาดหรือการสครับผิวบ่อยเกินไปด้วย

5. อาหารที่ทาน

อาหารถือเป็นปัจจัยภายนอกที่บ่งบอกได้ว่าคุณมีโอกาสเกิดผิวแห้งได้มากน้อยแค่ไหน บ่อยครั้งเมื่อร่างกายไม่ได้รับสารอาหารจำเป็นและเพียงพอต่อการบำรุงผิว เช่น สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินบางชนิดก็มักทำให้ผิวหนังภายนอกแห้งมากกว่าปกติ

6. สภาพอากาศภายนอก

อีกปัจจัยที่ส่งผลโดยตรงกับผิวพรรณของทุกคน ยิ่งถ้าเข้าสู่ฤดูหนาวสภาพอากาศที่แห้งจัดจะยิ่งส่งผลต่อปัญหาผิว เกิดความแห้งกร้าน ขณะที่ช่วงฤดูร้อนหากผิวสัมผัสกับความร้อนและแสงแดดมากเกินไป ก็มักส่งผลให้เกิดริ้วรอย ความหมองคล้ำ ฝ้า กระ จุดด่างดำ สูญเสียความชุ่มชื้นง่าย ผิวจึงแห้งได้เช่นกัน

7. การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว

หากเลือกของคุณภาพไม่ดี มีสารเคมีบางชนิดก็มักเข้าไปทำร้ายผิว นำมาซึ่งความแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น ไม่ได้รับการฟื้นฟูอย่างมีประสิทธิภาพตามที่ควรเป็น

สรุปแล้ว “ผิวแห้ง” คืออะไร

ผิวแห้ง คือ ภาวะของผิวภายนอกของร่างกายมีความแห้งและแตกมากกว่าปกติ ซึ่งอาจมีสาเหตุจากโรคบางชนิด เช่น ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง สะเก็ดเงิน ไปจนถึงการเจอกับปัจจัยแวดล้อมภายนอกหลายประการ ส่งผลถึงการระคายเคือง แตก ลอกเป็นขุย ผื่นคันแดง เกิดการอักเสบจากชั้นผิวที่อ่อนแอ สูญเสียน้ำมาก ยิ่งใครที่มีโรคประจำตัวอย่างโรคไต โรคเบาหวาน จะสังเกตเห็นง่ายมาก สัมผัสแล้วไม่เนียนนุ่ม รู้สึกสากมือ ซึ่งอาการดังกล่าวยังสามารถแยกระดับความแห้งออกได้ดังนี้

  • ผิวแห้งเล็กน้อย รู้สึกได้ว่าผิวจะแห้งเพียงนิดหน่อย แต่ไม่ค่อยสบายตัว สบายผิว สัมผัสแล้วไม่เรียบเนียน สากมือ บางรายอาจมีอาการคัน
  • ผิวแห้งปานกลาง เริ่มรู้สึกคันตามผิว ระดับการลอกและเป็นขุยเพิ่มมากขึ้น อาจมีผื่นขึ้นเป็นจุดหย่อม ผิวแดง รู้สึกสากผิวมากกว่าเดิม
  • ผิวแห้งมาก ผิวลอกออกจนเป็นขุยชัดเจน รู้สึกตึง เกิดร่องหรือรอยแตกลายบนผิวชัดเจน บางคนอาจขึ้นเป็นเกล็ด เมื่อสัมผัสกับสิ่งเร้าก็ระคายเคืองทันที คันต่อเนื่อง เกิดผื่นขยายวงกว้างโดยเฉพาะบริเวณที่มีการเสียดสีบ่อย เช่น ขาหนีบ

วิธีดูแลรักษาพร้อมแก้ปัญหา “ผิวแห้ง

วิธีแก้ผิวแห้งต้องเริ่มจากการดูแลตนเองจากภายในด้วยการทานอาหารที่มีประโยชน์กับผิว เน้นกลุ่มที่มีโอเมกา 3 เพื่อเพิ่มปริมาณชั้นน้ำมันของผิวสามารถหล่อเลี้ยงได้เพียงพอ เช่น แซลมอน น้ำมันดอกคำฝอย วอลนัท ปลาซาร์ดีน รวมถึงการทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินซีสูงจำพวกผลไม้รสเปรี้ยว เพื่อเป็นการสร้างคอลลาเจนให้กับร่างกาย ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว พักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับไม่ต่ำกว่า 6-10 ชม. / วัน 

ขณะที่วิธีจัดการปัญหาผิวแห้งอีกอย่างคือการเลือกใช้เซรั่ม หรือมอยส์เจอไรเซอร์ ผิวแห้ง ที่มักมีคุณสมบัติในการเพิ่มความชุ่มชื้น ตัวอย่างเช่น 

1. VERITE COLLAGEN SERUM 30ML. 

ผลิตภัณฑ์เซรั่มคอลลาเจนสูตรลิขสิทธิ์ Nano Lift จากสวิตเซอร์แลนด์ อัดแน่นด้วยส่วนผสมชั้นยอดไม่ว่าจะเป็นคอลลาเจนเพื่อการดูแลชั้นผิวให้อ่อนกว่าวัย เนียนนุ่ม เพิ่มความชุ่มชื้น Centella Asiatica Extract (สารสกัดจากใบบัวบก) ลดเลือนริ้วรอย ความหมองคล้ำ รอยแดง รอยดำจากสิว แผลเป็นต่าง ๆ และสารสกัดจากแตงกวา ลดปัญหาการเกิดสิวและยังช่วยเพิ่มความกระชับให้กับรูขุมขน

ด้วยเนื้อครีมสูตรบางเบาพิเศษขนาดโมเลกุลเล็กกว่า 50 เท่า จึงสามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวภายในได้อย่างรวดเร็ว ปราศจากแอลกอฮอล์ ไม่ก่อให้เกิดปัญหาความแห้งของผิวอย่างแน่นอน เพียงหยดแค่ 1-2 จุดบนนิ้วมือแล้วทาตามใบหน้ากับลำคอได้เลย

2. Verite Restorative Body Lotion 250ml.

โลชั่นช่วยบำรุงผิวเพื่อความกระชับ ผิวแลดูสว่าง กระจ่างใส ลดปัญหาความคล้ำเสียที่เกิดจากแสงแดด ยกผิวให้ตึงกระชับแต่ไม่แห้งกร้านจนคุณรู้สึกได้ด้วยตนเอง อัดแน่นด้วยสารสกัดจากธรรมชาติหลากชนิดทั้ง Stem Cell ข้าวแดงจากเทือกเขาหิมาลัย สารสกัดจากสาหร่ายสีน้ำตาล คอลลาเจนบริสุทธิ์ 100% โคเอนไซม์ คิวเท็น และอื่น ๆ การันตีความน่าเชื่อถือด้วย 3 รางวัลจากระดับนานาชาติ คืนความอ่อนเยาว์ให้กลับคืนมาอีกครั้ง

ควรเลือกใช้สบู่แบบไหนเพื่อจัดการปัญหาผิวแห้ง

ระดับความแห้งของผิวแต่ละคนไม่เหมือนกัน อีกวิธีที่จะช่วยได้นั่นคือการเลือกสบู่ให้เหมาะกับสภาพผิวของตนเอง นอกจากผิวกลับคืนความชุ่มชื้นยังขจัดสิ่งสกปรกต่าง ๆ ออกไปได้อย่างหมดจดอีกด้วย

1. สบู่สำหรับผู้มีผิวธรรมดาถึงแห้งแบบเล็กน้อย

ใครไม่มีปัญหาผิวแห้งเลย หรือมีก็แค่นิดหน่อย สามารถเลือกใช้สบู่ทั่วไปตามท้องตลาดได้แบบไม่ต้องคิดมาก แต่ถ้าอยากบำรุงเพิ่มเติมก็เน้นสูตรที่ช่วยปรับค่า PH ของร่างกายเพื่อให้เกิดความสมดุล พร้อมเติมเต็มความชุ่มชื้น สร้างเกราะป้องกันจากธรรมชาติ 

2. สบู่สำรับผู้มีผิวแห้งปานกลางถึงแห้งแตกมาก

ในกรณีที่คุณมีปัญหาผิวชนิดแห้งถึงระดับแห้งมาก สบู่ที่ใช้ควรมีส่วนผสมของน้ำมันบำรุงผิวซึ่งได้จากธรรมชาติ เพื่อเติมเต็มไขมันในชั้นผิวให้มากขึ้น แต่ต้องไม่เยอะเกินไปเพราะอาจรู้สึกเหนียวเหนอะจนน่ารำคาญ อีกทั้งการมีคุณสมบัติช่วยปรับค่า PH ของผิวเพื่อสร้างความสมดุลก็เป็นอีกสิ่งสำคัญเพื่อเสริมเกราะป้องกันและสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้อย่างดี

อย่างไรก็ตามนอกจากการใช้สบู่แล้ว อย่าลืมทาครีมกันแดดเพื่อป้องกันไม่ให้รังสียูวีส่องผ่านเข้ามาถึงชั้นผิวจนไปทำร้ายและเกิดความหมองคล้ำ แห้งกร้าน แตกลอกเป็นขุย น้ำในผิวลดระดับลง เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ แนะนำให้ทาทุกวันอย่างสม่ำเสมอแม้ไม่ได้ออกไปนอกบ้านก็ตามที

Recommended Posts