แสง UV light คืออะไร ส่งผลกระทบต่อผิวอย่างไร?
แสง UV คือ คลื่นแสงที่มีความยาวคลื่นตั้งแต่ในช่วง 280-400 นาโนเมตร มีที่มาหลัก ๆ จากดวงอาทิตย์ หรือแสงแดดที่เราสัมผัสในชีวิตประจำวันนั่นเอง และแม้ว่าเราจะไม่สามารถมองเห็นแสง UV ได้ด้วยตาเปล่า แต่รู้หรือไม่? ว่าแสง UV นี้ สามารถลงลึกสู่ชั้นผิวและทำร้ายชั้นผิวให้เกิดความเสียหายได้
แสง UV ส่งผลกระทบอย่างไรกับผิวบ้าง? และจะมีวิธีป้องกันรังสี uv อย่างไรได้บ้างนั้น ตามมาอ่านพร้อม ๆ กันในบทความนี้ได้เลย
รังสีอัลตราไวโอเลต (UV) มีกี่แบบ
อย่างที่บอกไปว่าแสง UV คือ คลื่นแสงที่มีความยาวคลื่นตั้งแต่ 280-400 นาโนเมตร จึงสามารถแบ่งรังสี UVหรือรังสีอัลตราไวโอเลตนี้เป็น 3 แบบด้วยกัน ดังนี้
UVA
รังสี UVA เป็นรังสี UV ที่มีความยาวคลื่นสูงมากที่สุด อยู่ที่ 300-400 นาโนเมตร เป็นรังสี UV ที่มีปริมาณมากที่สุดในแสงแดดถึง 75% และสามารถทะลุลงสู่ชั้นผิวหนังได้ลึกถึงชั้นหนังแท้ ทำให้องค์ประกอบสำคัญต่าง ๆ ในชั้นผิวเสื่อมสภาพ ไม่ว่าจะเป็นเส้นใยคอลลาเจน เส้นใยอีลาสติน ส่งผลให้เกิดปัญหาริ้วรอยก่อนวัย ผิวขาดความกระชับหย่อนคล้อย
และยังส่งผลกระทบกระตุ้นให้เม็ดสีเมลานินทำงานผิดปกติ เกิดการสร้างเม็ดสีผิวมากยิ่งขึ้น และเกิดเป็น ฝ้า กระ จุดด่างดำ ตลอดจนยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้ด้วย
UVB
รังสี UVB จะมีระดับความยาวคลื่นรองลงมาอยู่ที่ 290-320 นาโนเมตร มีปริมาณในแสงแดดถึง 18% และสามารถทะลุลงสู่ชั้นผิวได้เช่นกัน โดยเฉพาะชั้นผิวหนังกำพร้าไปจนถึงชั้นหนังแท้ ทำให้เวลาสัมผัสแดดเป็นเวลานาน หรือสัมผัสแดดในช่วงเวลาที่มีแดดจัดจะรู้สึกแสบร้อนผิว มีอาการผิวไหม้แดดอย่างเห็นได้ชัด และกระตุ้นให้ผิวแก่ เกิดปัญหาริ้วรอยร่องลึกก่อนวัยได้ด้วยเช่นกัน
UVC
รังสี UVC เป็นรังสีที่มีความยาวคลื่นน้อยที่สุดในบรรดารังสี UV ซึ่งจะอยู่ที่ 200-290 นาโนเมตร เป็นรังสีความยาวคลื่นสั้น ๆ และมักถูกดูดซับตั้งแต่ในชั้นบรรยากาศโอโซน จึงไม่สามารถกระจายรังสีลงมาสู่พื้นโลกได้ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ชั้นบรรยากาศไม่สามารถดูดซับรังสี UV นี้ได้ ก็อาจซึมเข้าสู่ผิวหนัง และก่อให้เกิดอันตรายได้ในอนาคต
แสงแดดมีผลเสียต่อผิวอย่างไร
แสงแดด หรือแสง UV โดยเฉพาะรังสี UVA และ UVB ที่สามารถทะลุเข้าสู่ชั้นผิวได้นั้น จะส่งผลเสียต่อสุขภาพผิวหนังของเราได้เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น
- ผิวไหม้แดด แสบร้อนผิวหนัง และทำให้ผิวแห้งแตกลอกได้
- หากร่างกายดูดซึมรังสี UV เข้าไป จะทำปฏิกิริยาเคมีกับเส้นใยโปรตีน เอนไซม์ และผนังของเซลล์ ทำให้เซลล์ต่าง ๆ นั้นถูกทำลายอย่างช้า ๆ และเกิดการเสื่อมสภาพ เสียหายในที่สุด เกิดปัญหาริ้วรอยแห่งวัย
- รังสี UV กระตุ้นให้ร่างกายสร้างสารอนุมูลอิสระ ตัวการทำลายเซลล์เนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะสุขภาพผิวหนัง ที่อาจทำให้เกิดปัญหาผิวแก่ ริ้วรอย ผิวเหี่ยวย่นก่อนวัย หรือมีปัญหาความผิดปกติของเม็ดสีผิว เช่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ
- เสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง
วิธีดูแล ป้องกันผิวจากรังสี uv
จะเห็นได้ว่าแสงแดด หรือแสง UV นั้นส่งผลกระทบต่อผิวหนังของเราได้รุนแรงถึงขั้นเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนังเลยทีเดียว ฉะนั้นจำเป็นอย่างมากที่ต้องมองหาวิธีป้องกันรังสี UV เพื่อปกป้องผิวพรรณของเราให้แข็งแรงและดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ ดังนี้
1.เลือกใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดให้เหมาะสม
วิธีป้องกันรังสี uv ที่ง่าย และเซฟผิวของเราได้ดีที่สุดเลยก็คือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กันแดด หรือครีมกันแดดให้เหมาะสมกับกิจกรรมที่ทำ เช่น
1.วิธีป้องกันรังสี uv ในวันธรรมดา Daily Routines
สำหรับการดูแลผิวให้ห่างไกลจากปัญหาผิวคล้ำเสีย หรือผิวแก่ก่อนวัยเนื่องจากรังสี UV ที่เราอาจหลีกเลี่ยงได้ยาก เพราะต้องดำเนินชีวิตตามกิจวัตรประจำวันนั้น แนะนำว่าให้เลือกผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีค่าปกป้องผิวด้วย SPF30 และ PA++ ขึ้นไป
จะสามารถช่วยป้องกันแสง UV ทั้ง UVA และ UVB ได้ ขณะเดียวกันก็ควรใช้อย่างเป็นประจำทุกวัน และแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง ทั้งนี้ Verite ขอนำเสนอทริคพิเศษในการเลือกผลิตภัณฑ์กันแดด ด้วยยุคสมัยที่เทคโนโลยีมีความสำคัญ เราต่างต้องอยู่กับหน้าจอคอม ทีวี โทรศัพท์ หรือแม้กระทั่งหลอดไฟ จึงควรเลือกครีมกันแดดที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงสีฟ้าด้วยนั่นเอง
2.วิธีป้องกันรังสี uv ในวัน Active ไปเที่ยว หรือมีกิจกรรม Outdoor
หากต้องออกไปทำกิจกรรมข้างนอกบ้านตลอดทั้งวัน ก็อาจเสี่ยงสัมผัสแสงแดด และรังสี UV ในปริมาณเยอะได้ ฉะนั้นแนะนำว่าควรเลือกผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีค่าปกป้องผิวสูง คือ SPF50 และ PA+++ ขึ้นไป เพื่อการปกป้องผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกันหากกิจกรรมเหล่านั้นมีเหงื่อออกเยอะ หรือต้องสัมผัสกับน้ำ ก็ควรเลือกครีมกันแดดสูตร Water-Resistant เพื่อป้องกันการชะล้างของสารกันแดดออกไประหว่างการทำกิจกรรมด้วย เพื่อให้คงประสิทธิภาพในการปกป้องผิวได้ดีเช่นเดิม และควรหมั่นทาผลิตภัณฑ์กันแดดซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง
3.มองหาอุปกรณ์เสริมปกป้องผิวจากรังสี uv
นอกเหนือจากการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันกันแดดให้เหมาะกับกิจกรรมที่ทำแล้ว Verite ก็ขอแนะนำให้เลือกใช้พวกอุปกรณ์เสริมที่มีคุณสมบัติช่วยกันแสง UV ร่วมด้วย เช่น ร่ม แว่นกันแดด หมวกปีกกว้าง ตลอดจนสวมเสื้อผ้ามิดชิดเพื่อป้องกันแดดสัมผัสผิว หรือเลือกใช้เสื้อผ้าที่มีคุณสมบัติกันรังสี UV ร่วมด้วยก็ได้เช่นกัน
4.หลีกเลี่ยงการสัมผัสแดดจัด และเป็นระยะเวลานาน
ช่วงเวลาที่แดดจัด หรือมีปริมาณความเข้มข้นของรังสี UV สูงนั้นจะเป็นช่วงเวลาตั้งแต่ 10.00-16.00 น. โดยประมาณ จึงควรเลี่ยงออกจากบ้าน หรือทำกิจกรรม Outdoor ต่าง ๆ ในช่วงเวลานี้ มิเช่นนั้นอาจทำร้ายผิวพรรณของคุณได้ แต่ถ้าหากจำเป็น แนะนำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีค่าปกป้องผิวจากแสง UV สูง ๆ ระดับ SPF50 และ PA+++ รวมถึงเลือกใช้อุปกรณ์เสริมต่าง ๆ เพื่อปกป้องผิวให้มิดชิดมากที่สุด
สรุป
แม้ว่าแสง UV คือ แสงที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด เนื่องจากส่งผลกระทบต่อผิวหนังได้อย่างรุนแรง ทำให้ผิวไหม้แดด ผิวแก่ก่อนวัย หรือรุนแรงถึงขั้นเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนังเลยทีเดียว ซึ่งวันนี้ก็ได้รู้กันแล้วว่า แสง UV มีกี่ประเภทที่ควรระวัง และจะมีวิธีป้องกันรังสี UV อย่างไรได้บ้าง? เพื่อให้สุขภาพผิวหนังของเราแข็งแรง ไม่ถูกแสง UV ทำลายจนเสื่อมสภาพและอ่อนแอ
ไอเทมป้องกันแสงแดด จำเป็นมากต่อการดำเนินชีวิตของเราในแต่ละวัน Verite ขอแนะนำ
Verite Aqua Light Sunscreen 50+ PA++++
ครีมกันแดด ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA UVB ในแสงแดด รวมทั้งแสงสีฟ้า และ PM 2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เหมาะกับผิวคนไทย
- มีเนื้อครีมน่าใช้มาก ทาแล้วบางเบาสบายผิว เกลี่ยง่าย ไม่เหนียวเหนอะผิว
- ผสานคุณค่าจากส่วนผสมธรรมชาตินานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นสารสกัดกุหลาบหินจากดินแดนโมรอคโค, สารสกัดจุลินทรีย์จากน้ำทะเลลึก แอลทีโรโมแนส และสารสกัดสารสกัดจากดอกอัญชัน ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อคงผิวอ่อนเยาว์ และกระจ่างใสอยู่เสมอ