

กันแดดมีกี่ประเภท คำถามที่พบบ่อยของหลาย ๆ คนที่อยากผิวสวยใส โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดได้อย่างเหมาะสมกับสภาพผิว หรือไลฟ์สไตล์ของตัวเองมากที่สุด ซึ่งก็เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยได้ยินกันมาว่ามีครีมกันแดด 2 ประเภท แต่รู้หรือไม่? ว่าจริง ๆ แล้วเราสามารถแบ่งครีมกันแดด หรือผลิตภัณฑ์กันแดดออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ ด้วยกัน ดังนี้
Chemical Sunscreen
ครีมกันแดดประเภท Chemical Sunscreen เป็นผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีคาร์บอนเป็นองค์ประกอบหลัก เช่น Avobenzone, Oxybenzone, Octinoxate และ Bis-Ethylhexyloxyphenol Methoxyphenyl Triazine เป็นประเภทกันแดดที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากสามารถช่วยดูดซับรังสียูวีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการเปลี่ยนรังสียูวีที่กระทบผิวเป็นความร้อน ทำให้รังสียูวีไม่สามารถซึมลงเข้าสู่ชั้นผิวได้
ข้อดีของกันแดดประเภท Chemical Sunscreen
- เนื้อสัมผัสกันแดดประเภทนี้ส่วนใหญ่เกลี่ยง่าย เหมาะสำหรับใช้ในทุก ๆ วัน
- ใช้ปริมาณน้อย ก็เพียงพอต่อการปกป้องผิว
- ใช้ร่วมกับสกินแคร์ตัวอื่น ๆ เพื่อเสริมประสิทธิภาพปกป้องผิวจากแสงแดดได้
ข้อเสียของกันแดดประเภท Chemical Sunscreen
- จำเป็นต้องรอให้กันแดดซึมลงสู่ผิวก่อน 15-20 นาที จึงจะสามารถช่วยปกป้องแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- มีโอกาสทำให้เกิดอาการระคายเคืองผิวได้ง่าย เนื่องจากมีส่วนประกอบของสารเคมีเป็นส่วนใหญ่
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีสภาพผิวมัน เพราะอาจทำให้เกิดการอุดตัน เป็นสิวง่าย
Physical Sunscreen
กันแดดประเภท Physical Sunscreen หรือ Mineral Sunscreen ส่วนใหญ่มีส่วนประกอบเป็นแร่ธาตุ อย่าง Titanium Oxide และ Zinc Oxide ที่มีคุณสมบัติช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB โดยการสะท้อนรังสีเหล่านี้ออกจากผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อดีของกันแดดประเภท Physical Sunscreen
- สารกันแดดมีความอ่อนโยน และปลอดภัยต่อผิวสูง ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่ำ
- สามารถป้องกันผิวจากรังสี UVA และ UVB ได้
- มีโอกาสอุดตันรูขุมขนน้อย เหมาะสำหรับผิวมัน ผิวเป็นสิวง่าย
- หลังใช้สามารถออกแดดได้เลย ไม่ต้องรอกันแดดซึมเข้าสู่ชั้นผิว
ข้อเสียของกันแดดประเภท Physical Sunscreen
- ส่วนใหญ่มักมีเนื้อสัมผัสที่หนัก เกลี่ยยาก และอาจปรับผิวให้ขาว หรือหน้าวอกได้
- มีโอกาสสารกันแดดหลุดออกง่ายเมื่อโดนเหงื่อ หรือโดนน้ำ จำเป็นต้องทาซ้ำบ่อย ๆ
- อาจมีคราบขาวของกันแดดเห็นชัดเมื่อเหงื่อออก หรือสัมผัสน้ำ
Hybrid Sunscreen
กันแดดประเภท Hybrid Sunscreen นั้นเป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากเป็นกันแดดที่คิดค้นมาเพื่อกลบข้อด้อย เพิ่มข้อดีของกันแดดประเภท Physical และ Chemical รวมถึงปรับปรุงสูตรให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และความรุนแรงของแสงแดดในปัจจุบัน ช่วยให้ปกป้องผิวได้ดียิ่งขึ้น
ข้อดีของกันแดดประเภท Hybrid Sunscreen
- สามารถช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA UVB ได้ครอบคลุม
- สามารถช่วยดูดซับและสะท้อนรังสี UV ออกจากผิวได้ในขั้นตอนเดียว
- เนื้อสัมผัสค่อนข้างเกลี่ยง่าย ไม่วอก ไม่เกิดคราบ
- เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว
- ใช้แล้วสามารถออกแดดได้ทันที ไม่ต้องรอกันแดดเซ็ตตัว
ผิวแต่ละแบบ เหมาะกับกันแดดประเภทไหน

นอกเหนือไปจากการรู้ว่ากันแดดมีกี่ประเภท ควรเลือกแบบไหนถึงจะตอบโจทย์ความต้องการได้ดีนั้น อีกสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเวลาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์กันแดดก็คือ สภาพผิวของแต่ละบุคคลว่าเหมาะกับกันแดดแบบไหนบ้าง? ดังนี้
- ผิวแห้ง : เหมาะสำหรับกันแดดเนื้อครีม ที่เพิ่มความชุ่มชื้นและปกป้องผิวได้ยาวนาน หรือจะใช้แบบสติ๊กเพื่อเติมกันแดดระหว่างวันก็ได้
- ผิวมัน : เหมาะสำหรับกันแดดที่มีเนื้อบางเบา อย่าง เนื้อเจลครีม เนื้อเจล หรือกันแดดแบบสเปรย์ ที่จะไม่ทำให้หน้ามันเยิ้มหลังใช้งาน และไม่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขน
- ผิวผสม : หรือผู้ที่มีลักษณะผิวแห้งผสมผิวมัน แนะนำเลือกใช้กันแดดแบบครีมหรือเจล สัมผัสบางเบา เกลี่ยง่าย ไม่มันเยิ้ม หรือเลือกเป็นกันแดดประเภท Hybrid Sunscreen ก็ได้
- ผิวแพ้ง่าย : ควรเลือกกันแดดเนื้อครีมประเภท Physical Sunscreen ที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองผิว และอ่อนโยนต่อผิวเซนซิทีฟ
จริง ๆ แล้วไม่ว่าคุณจะมีผิวแบบไหนกันแดดชนิด Hybrid Sunscreen ก็ถือว่าเป็นกันแดดที่เป้นที่นิยมและค่อนข้างตอบโจทย์ในการปกป้องผิวจากรังสียูวี เพราะได้ปรับปรุงคุณสมบัติของกันแดดทั้ง Chimical และ Physical Sunscreen เข้ามาไว้ด้วยกัน โดยนำข้อดีของแต่ละชนิดมารวมให้อยู่ในกันแดดเนื้อ Hybrid นั่นเอง ซึ่งทาง Verite ก็ไม่พลาดที่จะพัฒนาสูตรที่ตอบโจทย์ อย่างแดดประเทศไทย มาด้วยเช่นกัน
Verite Aqua Light Sunscreen 50+ PA++++
อย่างกันแดดประเภท Hybrid Sunscreen ตัวท็อปเรื่องกันแดดที่เหมาะกับการปกป้องแดดสูง เหมาะสำหรับการออกแดดเป็นเวลานาน ของ Verite มากด้วยคุณสมบัติบำรุงผิว ดังนี้
- สามารถปกป้องผิวจากแสงแดดได้ทั้ง UVA UVB ตลอดจนแสงสีฟ้าหรือ Blue Light ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะหยิบมาใช้ Indoor หรือใช้ Outdoor ก็ปกป้องผิวได้อย่างเต็มที่
- โดดเด่นด้วยส่วนผสมจากธรรมชาตินานาชนิด ไม่ว่าจะเป็น สารสกัดกุหลาบหินจากดินแดนโมรอคโค, สารสกัดจุลินทรีย์จากน้ำทะเลลึก แอลทีโรโมแนส และสารสกัดสารสกัดจากดอกอัญชัน
- ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะในอากาศได้ครบจบในหลอดเดียว
ขณะเดียวกันก็มาพร้อมกับเนื้อสัมผัสที่บางเบา สบายผิว ไม่เหนียวเหนอะหนะ และไม่ทิ้งความขาววอกที่ทำให้ขาดความมั่นใจอีกด้วย ที่สำคัญเหมาะสำหรับทุกสภาพผิว แม้ผิวบอบบางแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้
Verite UV Expert Sunscreen SPF 50 PA+++
ผลิตภัณฑ์กันแดดที่มาในรูปแบบของเนื้อครีมเข้มข้น แต่ให้ความบางเบา เกลี่ยง่าย ใช้แล้วไม่เป็นคราบระหว่างวัน หรือทิ้งความเหนอะหนะไม่สบายผิว พร้อมช่วยฟื้นบำรุงผิวด้วยคุณสมบัติ ดังนี้
- สามารถช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ได้ดีเยี่ยม
- ช่วยชะลอการเกิดปัญหาริ้วรอยแห่งวัย ฝ้า กระ จุดด่างดำได้ดี
- เป็นกันแดดสูตรที่กันเหงื่อ กันน้ำ อากาศร้อน เหงื่อเยอะแค่ไหนก็เอาอยู่อย่างแน่นอน
- ปราศจากส่วนผสมของพาราเบน แอลกอฮอล์ และสีสังเคราะห์ มั่นใจได้เลยว่าใช้แล้วไม่อุดตันรูขุมขน หรือก่อให้เกิดอาการระคายเคืองผิวอย่างแน่นอน

สรุป
ก็ได้รู้กันไปแล้วว่าผลิตภัณฑ์กันแดดมีกี่ประเภท และแต่ละประเภทนั้นคืออะไร? มีข้อดี ข้อเสียที่น่าสนใจอย่างไรบ้าง ตลอดจนเคล็ดลับในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่เหมาะสมกับแต่ละสภาพผิวที่ Verite ได้นำมาฝากกันในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกชนิดของกันแดดให้เหมาะสมกับสภาพผิว เลือกค่า SPF ที่จะปกป้องผิวให้เหมาะกับลักษณะกิจกรรมที่ทำ หรือแม้แต่เลือกเนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์กันแดดที่เหมาะกับผิวมากที่สุด เพียงเท่านี้ก็จะได้ครีมกันแดดตัวโปรดที่ปกป้องผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้วล่ะ
Reference
Did you know ครีมกันแดดมีกี่ประเภท ? – tnpoem
https://www.tnpoem.com/content/6233/sunscreen-type
“ครีมกันแดด” วิธีเลือกและใช้ให้ดีต่อผิว
ครีมกันแดดมีกี่ชนิด ควรเลือกใช้แบบไหนถึงจะดี – sophistmedic
https://www.sophistmedic.com/content/5565/ครีมกันแดดมีกี่ชนิด-ควรเลือกใช้แบบไหนถึงจะดี